ยอดวิว Visit

วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2560

การแลกของที่บันลือโลก

การลงทุนคลิปหนีบกระดาษ 1 ชิ้น กลายเป็นบ้าน 1 หลัง เขาทำได้อย่างไร

กระทู้สนทนา


    ไคล์ แม็คโดนัลด์ เป็นบล็อกเกอร์(คนเขียนบล็อก)ชาวแคนาดา ซึ่งเขาเป็นที่รู้จักจาก "การนำสิ่งของไปแลกเปลี่ยนต่อกันเรื่อยๆ" เขาเริ่มจากใช้คลิปหนีบกระดาษสีแดง แลกของหลายๆ อย่าง และนำของเหล่านั้นแลกต่อไปเรื่อยๆ ทั้งหมด 14 ครั้ง และสิ้นสุดด้วยการแลกได้ "บ้าน 1 หลัง" ว้าววววววว เขาทำได้ยังไง?

        ไคล์ แม็คโดนัลด์ เล่าว่า เขาได้แรงบันดาลใจในการทำสิ่งนี้มาจากเกมในวัยเด็ก Bigger, Better คอนเซ็ปต์ของเกมคือ การแลกสิ่งของต่างๆ ไปเรื่อยๆ จากของมูลค่าเล็กๆ กลายเป็นของที่มีมูลค่ามหาศาล นั่นทำให้เขาเริ่มคิดอยากทำตามอย่างในเกมบ้าง


    นอกจากนี้ เขากับแฟนสาวอาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆในเมืองมอนทรีออล ยิ่งทำให้เขาต้องการจะมีบ้านของตัวเองจึงลองมองหาวิธีที่จะทำให้เป็นจริง!! และจะมีวิธีไหนบ้างที่สามารถทำให้ความต้องการของเขาเป็นจริงได้ โดยไม่ต้องใช้เงิน ?????

  เขามองไปที่โต๊ะทำงานและมองเห็น คลิปสีแดง 1 คลิป และบอกกับตัวเองในใจว่า "ฉันจะเริ่มต้นด้วยคลิปนี่แหละ" โดยตั้งใจจะลองนำคลิปนี้ไปแลกของอย่างอื่น

     จากนั้นเขาเริ่มโปรเจ็คท์ One Red Paper Clip และได้โพสท์เรื่องของเขาลงอินเตอร์เน็ต เพราะเขาคิดว่า "บางคนอาจอยากมีชื่อร่วมอยู่ในโปรเจ็คท์ของเขาที่มันอาจจะกลายเป็นประวัติศาสตร์" และแน่นอนว่า เริ่มมีผู้สนใจอยากจะแลกนั่นแลกนี่กับเขา
40 ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 1 ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2005 หรือ 8 ปีก่อน ในเมืองแวนคูเวอร์ เขาเริ่มจากการนำ "คลิปหนีบกระดาษสีแดง" ไปแลกกับ "ปากการูปปลา" จากผู้หญิงคู่หนึ่งในเมืองเดียวกัน



การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 2 และในวันเดียวกันนั้น เขาก็แลกปากการูปปลากับ "ลูกบิดประตูทำมือ" จากช่างปั้นหม้อในซีแอตเติล โดยเขาได้ตั้งชื่อเล่นให้กับลูกบิดนี้ว่า "Knob-T"




การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 3 หลังจากนั้นไม่กี่วัน 25 กรกฎาคม 2005 เขาเดินทางไปยังรัฐแมซซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา และได้แลก Knob-T กับ "เตาปิคนิคพร้อมเชื้อเพลิง"
ความคิดเห็นที่ 2
การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 4  2 เดือนต่อมา ในวันที่ 24 กันยายน 2005 เขาเดินทางไปแคลิฟอร์เนีย เขาได้แลกเตาปิคนิคกับ "เครื่องปั่นไฟของรถยนต์ฮอนด้า"




การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 5 ต่อมาในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2005 เขาได้แลกเครื่องปั่นไฟรถยนต์กับ "ชุดจัดงานปาร์ตี้" ที่มีถังเบียร์และป้ายสัญลักษณ์ Budweiser ซึ่งเป็นชื่อยี่ห้อเบียร์ชื่อดังในอเมริกา



การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 6 และในสิ้นปีนั้น เขาได้แลกชุดจัดงานปาร์ตี้กับ "รถที่ใช้วิ่งบนหิมะ" โดยแลกจากนักตลกชื่อดังชาวควิเบก มิเชล แบแรตต์ (ถือว่าแลกได้ถูกเวลามาก เพราะช่วงสิ้นปี ใครๆ ก็อยากจัดปาร์ตี้ทั้งนั้น)
ความคิดเห็นที่ 3
การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 7 สัปดาห์ต่อมา เขาก็ได้แลกรถที่ใช้วิ่งบนหิมะ กับ "ตั๋วเดินทางไปเที่ยวเมืองยาห์ก รัฐบริติชโคลอมเบีย 2 ที่นั่ง"



การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 8 เข้าสู่ปี 2006 เขานำตั๋วเดินทางไปเที่ยว 2 ที่นั่งแลกกับ "รถตู้!!"




การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 9  22 กุมภาพันธ์ 2006 เขาแลกรถตู้กับ "การเซ็นสัญญาอัดเสียงกับบริษัทเมทัลเวิร์ค" ซึ่งเป็นค่ายเพลงในแคนาดา
ความคิดเห็นที่ 4
การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 10  11 เมษายน 2006 เขาแลกสัญญาการอัดเสียงกับ Jody Marie Gnant ซึ่งเป็นนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน โดยสิ่งที่ Jody Marie Gnant ให้ก็คือ "การเช่าอาศัยอยู่ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐอะริโซน่า แบบฟรีๆ"




การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 11  26 เมษายน 2005 เขาแลกการเช่าอาศัยอยู่ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐอะริโซน่า กับ ช่วงบ่ายของวันหนึ่งที่จะได้อยู่กับ "อลิซ คูเปอร์"  ร็อกเกอร์ชื่อดังชาวอเมริกัน โดย อลิซ คูเปอร์ นี่แหละ เป็นผู้ยอมแลกด้วยตัวเอง




การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 12  26 พฤษาคม 2006 เขาได้แลกช่วงบ่ายที่จะได้อยู่กับ อลิซ คูเปอร์ โดยแลกกับ "ลูกโลกหิมะ ยี่ห้อ KISS" ตรงนี้แหละค่ะที่หลายคนเริ่มมองว่าเขาบ้า!! แลกเวลาที่จะได้อยู่กับดาราดังกับลูกโลกหิมะเนี่ยนะ!!


     แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา เพราะเขารู้ดีกว่า ผู้กำกับดังของฮอลลีวู้ดอย่าง คอร์บิน เบินเซ่น นิยมสะสมลูกโลกหิมะสวยๆ มากมาย และยอมจ่ายไม่อั้นหากถูกใจและอยากได้จริงๆ!
ความคิดเห็นที่ 5
การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 13 และก็เป็นจริงอย่างที่คิด เพราะ 2 มิถุนายน 2006 เขาได้แลกลูกโลกหิมะกับ คอร์บิน เบินเซ่น โดยแลกกับ "การให้เขาได้เป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Donna on Demand" ที่ คอร์บิน เบินเซ่น กำกับ




การแลกเปลี่ยนครั้งที่ 14 และในวันที่ 5 กรกฎาคม 2006 เขาได้แลกการได้เล่นภาพยนตร์เรื่อง Donna on Demand กับ "บ้าน 2 ชั้นในไร่ ณ มณฑลซัสแคตเชวาน แคนาดา" ราคา 50,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 1,500,000 บาท





ข้อคิดที่ได้
  
    1. ไคล์ แม็คโดนัลด์ กล่าวไว้ว่า หากคุณคิดจะทำอะไรสักอย่าง ถ้าคุณใส่ใจและตั้งใจจริงๆ ยังไงมันก็สำเร็จ

    2. ในบางครั้งวิธีการหรือรางวัลอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่า "ตัวเราเอง" เพราะหลังจบโปรเจคท์ One Red Paper Clip ก็มีนักข่าวและสำนักพิมพ์มาติดต่อเขาให้เขียนหนังสือ เรียกว่าดังข้ามคืนทีเดียว (อารมณ์คนที่ไปออกรายการต่างๆ แล้วตกรอบ แต่เขาก็กลายเป็นคนมีชื่อเสียงและมีคนจำได้)

    3. ของแต่ละอย่างสำหรับแต่ละคน อาจมีมูลค่าไม่เท่ากัน

    4. แต่สุดท้ายแล้ว "เงิน" ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตของคนเรามากกว่า "การแลก" ถ้าเราอยากได้บ้าน สิ่งที่เราควรทำจริงๆ คือเก็บเงินและซื้อมัน


Credit:http://www.dek-d.com/content/studyabroad/32336/
ที่มา: https://pantip.com/topic/30883942

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น