ยอดวิว Visit

วันจันทร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2560

หลักเกณฑ์และเงื่อนไขผู้ประกันตนนอกระบบ(ม.40)

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
ผู้ประกันตนนอกระบบ(ม.40)

ที่มา
การขยายประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบโดยผลักดันร่าง พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ฉบับแก้ไข เพื่อรัฐร่วมจ่ายในมาตรา 40 และแก้ไขพระราชกฤษฎีกา เพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ของมาตรา 40 ให้เป็นที่จูงใจ โดยเป็นระบบสมัครใจ
  
ความหมาย
ผู้ประกันตนมาตรา 40 หมายถึง บุคคลทั่วไปที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี
บริบูรณ์และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ และไม่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33, มาตรา 39

คุณสมบัติผู้สมัคร
-อายุ 15-60 ปีบริบูรณ์  ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33  มาตรา 39 
ไม่เป็นข้าราชการหรือบุคคลที่ถูกยกเว้นตามกฎหมายประกันสังคม
-บุคคลพิการที่สามารถรับรู้สิทธิประกันสังคม

หลักฐานการสมัคร
-แบบคำขอสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 (สปส.1-40)
-บัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรประชาชน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง หรือบัตรอื่นที่ใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชน

สถานที่ในการสมัคร
-ยื่นได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข)
-หน่วยบริการเคลื่อนที่ของสำนักงานประกันสังคม

จ่ายเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 40 มี 2 ทางเลือก ดังนี้
-ทางเลือกที่ 1  จ่ายเงินสมทบ  100  บาท/เดือน  (จ่ายเอง 70  บาท  รัฐสนับสนุน 30 บาท)
-ทางเลือกที่ 2  จ่ายเงินสมทบ  150  บาท/เดือน  (จ่ายเอง 100 บาท รัฐสนับสนุน 50 บาท)

หมายเหตุ   
-รัฐบาลจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง

-การจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 จ่ายเป็นรายเดือน ๆ ละ 1 ครั้ง และจ่ายเงินสมทบล่วงหน้าได้ครั้งละไม่เกิน 12 เดือน แต่ไม่สามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้

-ผู้ประกันตนที่ประสงค์รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้นสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มเติมได้ไม่เกินเดือนละ 1,000 บาทต่อเดือน 

การแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูล
-เมื่อเป็นผู้ประกันตนแล้วหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เช่น เปลี่ยนคำนำหน้านาม ชื่อ - สกุล ที่อยู่ที่ติดต่อขอเปลี่ยนทางเลือกจ่ายเงินสมทบ ให้ยื่นแบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงและทางเลือกการจ่ายเงินสมทบกับผู้ประกันตนมาตรา 40 (สปส.1-40/1) พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง

-กรณีขอเปลี่ยนทางเลือกจ่ายเงินสมทบจะทำได้ปีละ 1 ครั้ง โดยเมื่อยื่นขอเปลี่ยนแปลทางเลือกแล้วจะมีผลในเดือนถัดไป

-หากไม่ประสงค์เป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ต่อไป (ลาออก) ให้ยื่นแบบแจ้งความจำนงไม่ประสงค์เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 (สปส.1-40/2) และบัตรประจำตัวประชาชน

ประโยชน์ทางภาษี
เงินสมทบในแต่ละปี ใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยใช้ใบเสร็จรับเงินที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเป็นหลักฐาน หรือขอหนังสือรับรองการชำระเงินสมทบจากสำนักงานประกันสังคม

สิทธิประโยชน์พื้นฐาน
กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย  
        เมื่อนอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 200 บาทต่อวัน ไม่เกิน 30 วันต่อปี เงื่อนไขจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 4 เดือน (การรักษาพยาบาลใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง) จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)

กรณีทุพพลภาพ 
       รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 500 - 1,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลานานถึง 15 ปี เงื่อนไข เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือนขึ้นไป (ต้องเป็นผู้ทุพพลภาพหรือทุพพลภาพเพิ่มขึ้นตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการ แพทย์)

กรณีตาย  
       รับเงินค่าทำศพจำนวน 20,000 บาทต่อราย  เงื่อนไข จ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายในระยะเวลา 12 เดือน ก่อนเสียชีวิต  ยกเว้น เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เงื่อนไข จ่ายเงินสมทบครบ 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือน ก่อนเสียชีวิต

กรณีชราภาพ (เงินบำเหน็จ)
        ผู้ประกันตนสามารถรับเงินก้อนเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เงื่อนไข มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
ทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณ เพื่อสิทธิประโยชน์ดังกล่าวสำนักงานประกันสังคมขอเสนอทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณด้วย ชุดสิทธิประโยชน์ 

ชุดสิทธิประโยชน์ ดังนี้
-ทางเลือกที่ 1  (จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน)
สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 3 กรณี คือ  กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย  กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย 

-ทางเลือกที่  2  (จ่ายเงินสมทบ 150 บาท/เดือน)
สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 4 กรณี คือ  กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย  กรณีทุพพลภาพ  กรณีตาย  กรณีชราภาพ (เงินบำเหน็จ)

วิธีการนำส่งเงินสมทบ
จ่ายเงินสมทบได้ที่ 
-สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา
หน่วยบริการเคลื่อนที่ของสำนักงานประกันสังคม
-เคาน์เตอร์เซอร์วิส
-เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
-เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
-ห้างเทสโก้โลตัส
-ไปรษณีย์ (ธนาณัติ)
-หักผ่านบัญชีธนาคาร
-ธนาคารเพื่่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
-ธนาคารออมสิน
-ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
-ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
-ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
-ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 
กำหนดให้รัฐบาลร่วมจ่ายเงินสมทบให้กับผู้ประกันตนมาตรา 40 ไม่เกินกึ่งหนึ่งของเงินสมทบที่ได้รับจากผู้ประกันตน

หมายเหตุ
-การชำระเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ผู้ประกันตนจะเสียค่าธรรมเนียมจำนวน 10 บาทต่อใบเสร็จ

-การชำระเงินสมทบที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และห้างเทสโก้โลตัส ผู้ประกันตนจะเสียค่าธรรมเนียมจำนวน 10 บาทต่อรายการ

-ในส่วนการชำระผ่านการหักธนาคารออมสิน  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารกสิกรไทย  ธนาคารไทยพานิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ผู้ประกันตนจะเสียค่าธรรมเนียมจำนวน 5 บาทต่อรายการ โดยหักจากบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ประกันตน

หมายเหตุ  
สำหรับสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในกรณีเจ็บป่วย บุคคลที่สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 หากได้รับสิทธิเบิกจ่ายตรงจากกรมบัญชีกลาง หรือมีสิทธิได้รับจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)  ก็ยังคงได้รับสิทธินั้น ๆ ได้ตามปกติ  เนื่องจากสำนักงานประกันสังคมไม่ได้ให้ความคุ้มครองในเรื่องค่ารักษาพยาบาล แต่ให้เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลประเภทผู้ป่วยในตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป ในอัตราวันละ 200  บาท ปีละไม่เกิน 30 วัน ต่อเมื่อภายในระยะเวลา 4 เดือน ผู้ประกันตนได้จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ก่อนเดือนที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย


ข้อมูล ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2558
ที่มา สำนักงานประกันสังคม
ลิงค์ http://www.sso.go.th/wpr/content.jsp?lang=th&cat=876&id=3694



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น