ยอดวิว Visit

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

แชร์ประสบการณ์ถูกเวนคืนบ้านและที่ดินค่ะ

ตามหลักต้องจ่ายตามราคาขายค่ะ ไม่ใช่ราคาประเมิน อย่างไรก็ตามเนื่องจากพนักงาน(ทางหลวง)ที่มาประเมินมีอำนาจในการตั้งราคา เค้าอาจจะตั้งราคาต่ำกว่าราคาขาย อย่างราคาขายอยู่ที่งานละ 1ล้าน แต่ทางหลวงให้ 900,000 ก็พอรับได้ค่ะ หากเราเห็นว่า ได้น้อย ก็สามารถแย้งไปที่ ผอ. ทางหลวง ถ้าเค้ายันกลับ ก็ทำเรื่องใหม่ส่งไป รัฐมนตรีคมนาคมถือเป็นที่สุด โดยต้องอยู่ในเงื่อนเวลาที่กำหนดค่ะ ส่วนใหญ่จะ 60 วันค่ะ

เจ้าของที่ดินที่จะโดนเวนคืนควรเริ่มเก็บข้อมูลพวกโบชัวร์ขายที่ เบอร์โทร ภาพการปักป้ายขาย ราคาขาย เพื่อประกอบการทำเรื่องแย้งไว้ด้วย

ตอนไปประเมินทางหลวงมักจะเช็คราคาจากแปลงที่ประกาศขายข้างเคียงค่ะ 


ตอนเขาเชิญประชุมก็ควรจะไปอย่างสม่ำเสมอ ให้เบอร์โทรที่ติดต่อได้ และขอเบอร์โทรทีมงานเวนคืน หรือผู้ประสานงานไว้ด้วย ที่อยู่ที่แจ้งไว้ให้เขาติดต่อ ก็ต้องเป็นที่อยู่ที่เราอยู่ตลอด จะได้ไม่ตกข่าวค่ะ

กรณีที่มีสิ่งก่อสร้าง การเวนคืนต้องจ่ายค่าสิ่งก่อสร้างให้เราตามราคาซื้อขายในท้องตลาดด้วยนะคะ

กรณีที่เรามีต้นไม้ใหญ่ ดอกไม้ ต้นไม้ที่เราปลูก หรือที่ขึ้นตามธรรมชาติแต่เป็นต้นไม้ที่ขายได้ หรือมีต้นทุนในการปลูก ก็ต้องให้เค้าจ่ายค่าต้นไม้ให้เราด้วยค่ะ ของผู้เขียนมีต้นชบา 1 ต้นปลูกมาประมาณ 1 ปีได้ 150 บาทค่ะ ข้อมูลที่ประกอบเรื่องต้นไม้ส่วนใหญ่เค้าจะถามเราว่า ปลูกมานานเท่าไหร่ ต้นทุน ซื้อขายกันเท่าไหร่ ประมาณนี้ค่ะ

กรณีมีคนเช่าบ้านหรือที่ดิน คนที่เช่าจะได้รับค่าเสียหายด้วย ส่วนใหญ่จะได้ตามค่าเช่า และสิ่งที่เราปลูก เราสร้าง หรือต่อเติมค่ะ

ถ้าเรามีการถมที่สูงกี่เมตรหลังจากซื้อที่ดินแปลงนี้มาก็แจ้งพนักงานด้วยว่า  ถมกี่เมตร หมดเงินไปประมาณเท่าไหร่ค่ะ

ถ้าบ้านหรืออาคารเรามีการต่อเติม ปรับปรุงก็ต้องแจ้งเค้าด้วย

กรณีที่ต้องรื้อ ย้าย ก็ต้องให้เค้าจ่ายค่ารื้อ ค่าย้าย ค่าขนของ แม้แต่ค่าย้ายแอร์ ก็ต้องจ่ายค่ะ

เมื่อพนักงานสำรวจเสร็จแล้ว ก็จะเรียกเราไปเซ็นรับทราบบัญชีกำหนดค่าทดแทนที่ดิน อาคาร โรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง และต้นไม้ ซึ่งบัญชีนี้จะประกอบไปด้วยรายการต่างๆดังนี้
- ลำดับที่
- ชื่อ สกุล ผู้ได้รับค่าทดแทน
- ที่อยู่เจ้าของ หรือ ผู้ครอบครอง
- รายละเอียดที่ดิน 
- ค่าทดแทนที่ดิน ประกอบด้วย อัตราราคาต่อตารางวา และ รวมค่าทดแทนที่ดินทั้งหมด
- ค่าทดแทนอาคาร สิ่งปลูกสร้างและอื่นๆ 
- ค่าทดแทนต้นไม้ยืนต้นและพืชผล
- อื่นๆ

งวดแรกทางทางหลวงจะเรียกเราไปรับเงินสด 70 % ของที่จะได้ทั้งหมดค่ะ 
เมื่อรับเงินเสร็จแล้ว เราต้องนำโฉนดของเราไปยื่นขอขอรังวัดเพื่อแบ่งแยกที่ดิน ที่สำนักงานที่ดินค่ะ เราต้องดำเนินการเองค่ะ เมื่อถึงเวลาที่ทางที่ดินนัดหมาย เราก็ไปชี้แนวเขต ทำการรังวัดกับพนักงานที่ดิน จากนั้นทางที่ดินก็จะนัดให้เรานำโฉนดตัวจริงไปแก้ไข เค้าจะตีเส้นในโฉนดให้ใหม่ และสลักหลังให้เรา 

ในกรณีที่เจ้าหน้าที่รังวัดมาสอบเขตแล้ว ถ้าขนาดที่ดินไม่ตรงกับที่พนักงานทางหลวงมาประเมินก็จะมี 2 กรณีค่ะ
กรณีที่ 1 ที่ดินประเมินขนาดที่ดินได้น้อยกว่า ทางหลวงก็จะจ่ายค่าเวนคืนให้เราน้อยลง คือจ่ายตามขนาดที่ดินจริงๆ
กรณีที่ 2 ที่ดินประเมินขนาดที่ดินได้มากกว่า ทางหลวงต้องจ่ายค่าเวนคืนให้เราเพิ่มขึ้น คือจ่ายตามขนาดที่ดินจริงๆ


ย้ำ ตอนที่พนักงานมาสำรวจที่ดิน เราต้องอยู่ด้วย ว่างไม่ว่างก็ต้องว่างค่ะ เพราะเป็นผลประโยชน์ของเราเองค่ะ

เมื่อรังวัดสอบเขตเสร็จ ที่ดินแก้ไขโฉนดให้เสร็จก็ถ่ายสำเนาโฉนดหน้าหลัง ไปยื่นเบิกเงินค่าเวนคืนงวดสุดท้าย 30% จากทางหลวงได้ พร้อมกับเอกสารดังต่อไปนี้
สำเนาโฉนดหน้าหลัง
- สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของที่ดิน
- ภาพถ่ายที่ดิน 

กรณีที่เราโดนเวนคืนอาคาร สิ่งปลูกสร้างด้วย นั้น เมื่อเรารังวัดสอบเขตกับที่ดินเสร็จ ก็ให้ลงมือจ้างช่างมาทุบ รื้อ ถอน ย้าย ให้สิ่งก่อสร้างอยู่ในแนวเขต ห้ามล้ำออกมา เมื่อทำการทุบ รื้อ ถอน ย้าย เสร็จแล้ว ก็ไปยื่นขอค่าเวนคืนส่วนที่เหลือ 30% ได้โดยนำหลักฐานไปดังนี้ 
- สำเนาโฉนดหน้าหลัง
- สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของที่ดิน
- ภาพถ่ายอาคารและที่ดินส่วนที่เหลือ 



ย้ำ ราคาเวนคืน ไม่ใช่ราคาประเมิน ต้องเป็นราคาซื้อขายตามท้องตลาดค่ะ

ระเบียบและขั้นตอนการเวนคืนที่ดิน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น