เรื่องดี สร้าง พลังบวก
การให้ไม่สิ้นสุด
แม้ตะวันจะเริ่มโพล้เพล้
แต่ก็ยังไม่มืดเกินไปที่เขา
จะสังเกตุเห็นหญิงสูงอายุ
แต่แต่งกายดีคนนั้น ยืนอยู่ข้างทางรอความช่วยเหลือ
เขาเบี่ยงรถเข้าจอดหน้ารถเมอซีเดสเบ๊นส์คันงามของเธอ และลงจากรถ
ขณะที่เขาเดินเข้าไปหาเธอ รถปอนเตี๊ยกของเข ทั้งสั่นทั้งคราง แม้เขาจะระบายยิ้มซะเต็มหน้า แต่ใบหน้าเธอยังคงเต็ไปด้วยแววกังวล
...ไม่มีใครยอมหยุดมาช่วย
เราเลย ตั้งชั่วโมงกว่าแล้ว
เขาจะทำร้ายฉันไหมหนอ ...
เขาดูไม่น่าเชื่อถือเลย...
ดูซกมกและหิวโซอีต่างหาก...”
เขาพอมองออกว่าเธอกลัวเขา
ยืนอยู่เดียวดายท่ามกลางความหนาวเย็น เขาเข้าใจดีว่าเธอรู้สึก
อย่างไร
มันเป็นความหนาวสั่น
ที่มาพร้อมกับความกลัวเชียวหละ
“ผมมาช่วยครับ คุณผู้หญิง
ทำไมไม่เข้าไปนั่งสบายๆ
ในรถที่อบอุ่นกว่าละครับ...
เอ้อ ผมชื่อ ไบรอัน แอนเดอร์สัน ครับ”
ที่จริง รถเธอแค่ยางแตก
แต่นั่นก็หนักหนาพอแล้ว
สำหรับเธอ
ไบรอันก้มลงมองใต้รถ หาที่สำหรับค้ำแม่แรง
ถลกแขนเสื้อและขยับแขน 2 -3 ครั้ง
ในไม่ช้า เขาก็เริ่มเปลี่ยนยางได้
แต่ก็ต้องแลกกับความ
มอมแมมและเจ็บมืเล็กน้อย
ตอนที่เขาขันน๊อตล้อตัว
สุดท้าย เธอหมุนกระจกรถลง และเริ่มคุยกับเขา
เธอเล่าว่า เธอมาจากเซ็นต์หลุยส์ และผ่านมาทางนี้
เธอไม่รู้จะขอบคุณเขา
อย่างไรดี ที่อุตส่าห์มาช่วย
ไบรอันแค่ยิ้มให้ แล้วปิดกระโปรงหลังรถ
หลังเก็บเครื่องมือเสร็จ
หญิงผู้สูงศักดิ์ถามว่า
เธอต้องจ่ายให้เขาเท่าไหร่
เธอพร้อมจะจ่ายไม่ว่าเท่าไหร่
เพราะเธอตระหนักดีว่า หากเขาไม่มาช่วย เหตุการณ์อาจจะเลวร้าย
ยิ่งกว่านี้ก็ได้
ไบรอันไม่เคยคิดถึเรื่องเงินเลย
นี่ไม่ใช่งานหนักหนาอะไรสำหรับเขา
มันแค่เป็นการช่วยเหลือ
คนที่ต้องการความช่วเหลือเท่านั้น
ที่ผ่านมา เขาก็เคยได้รับการ
ช่วยเหลือเช่นนี้จากผู้อื่น
เช่นกัน เขาถือคติเช่นนี้เสมอมา และไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย
เขาบอกเธอว่า หากเธอจะชดใช้ให้เขาจริงๆละก้อ
ครั้งหน้าที่เธอเห็นใคร
ที่ต้องการความช่วยเหลือ
จงช่วยคนนั้น และ...
“ให้คิดถึงผมด้วยก็แล้วกันครับ”
เขายืนมองจนเธอติด
เครื่องยนต์และขับหายไป
...มันช่างเป็นวันที่หนาวและห่อเหี่ยว
แต่เขากลับรู้สึก ดี และมีความสุข ขณะที่ขับรถกลับบ้าน กลางแสงตะวันยามเย็น
ห่างมาไม่กี่ไมล์ หญิงผู้สูงศักดิ์เห็นข้างทางมีร้านกาแฟเล็กๆร้านหนึ่ง
เธอหวังเพียงแวะเข้าไป
หาอะไรรองท้องและหลบหนาว ก่อนที่จะเดินทางต่อ
ข้างในร้านทั้งมืด ทั้งสกปรก ข้างนอกมีเพียงเครื่อง
เติมน้ำมันเก่าๆสองเครื่องมันช่างเป็นภาพที่ไม่โสภาเลยสำหรับเธอ
สาวเสริฟคนหนึ่งเดินมาหาเธอ ใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดซับผมที่เปียกปอนให้เธอ
เธอคนนั้นยิ้มหวานมาก หวานซะจนความเมื่อยล้า
จากการยืนมาแล้วทั้งวัน ยังไม่สามารถลบรอยยิ้มนั้นออกได้
หญิงผู้สูงศักดิ์สังเกตุเห็น
เธอผู้นั้นน่าจะท้องได้แปดเดือนแล้ว
แต่เธอไม่เคยปล่อยให้
ความเครียดและความเจ็บ
เมื่อยเหล่านั้นมาเปลี่ยน
ทัศนคติของเธอ
หญิงสูงศักดิ์ไม่เคยคิด
มาก่อนเลยว่า จะมีคนที่มีต้นทุนเพียง
น้อยนิด แต่สามารถให้ผู้อื่นได้มากขนาดนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนแปลกหน้าเช่นเธอ ...แล้วเธอก็นึกถึงไบรอัน
หลังจากเธอรับประทาน
อิ่ม เธอจ่ายด้วยเงินใบละร้อยดอลล์
ขณะที่สาวเสิร์ฟเข้าไป
เอาเงินมาทอน หญิงผู้สูงศักดิ์ได้หลบ
ออกนอกร้านไปทันที
เมื่อสาวเสิร์ฟกลับมา
พร้อมตังค์ทอน จึงไม่เห็นเธอขณะที่
กำลังฉงนใจ เธอสังเกตุเห็นมีบางสิ่ง
เขียนอยู่บนผ้ารองจาน
พอเธอได้อ่าน ในตาเธอเอ่อไปด้วยน้ำตา
หญิงสูงศักดิ์เขียนว่า
“เธอไม่ได้ค้างอะไรฉันเลย ฉันเคยเป็นเช่นนั้มาก่อน
มีบางคนเคยช่วยฉัน เหมือนที่ฉันกำลังช่วยเธอ หากเธอจะตอบแทน
จริงๆละก้อ
จงช่วยผู้อื่นต่อไป อย่าให้โซ่ของความรักนี้ขาดช่วงลงที่เธอนะ”
ใต้ผ้ารองจานผืนนั้น ยังมีใบละร้อยดอลล์อยู่อีกสี่ใบ
เอาละ ยังมีโต๊ะที่ต้องเช็ดถ้วยน้ำตาลที่ต้องเติม ลูกค้าที่ต้องบริการอีกมากมาย เธอยังคงทำงานต่อไจนดึก
คืนนั้น เธอกลับถึงบ้าน ปีนขึ้นเตียงนอน พร้อมกับหวลคิดถึงเงินและสิ่งที่หญิงผู้สูงศักดิ์ผู้นั้นเขียน
..เธอรู้ได้อย่างไรนะ ว่าเราและสามีกำลังต้องการมันมากทีเดียว
อีกเดือนเดียวลูกก็จะคลอดแล้ว มันจะลำบากยิ่งขึ้น หากเราไม่มีเงิน..
เธอทราบดีว่าสามีกลุ้มใจเรื่องนี้มาก
ดังนั้น ตอนที่สามีเธอล้มตัว
ลงนอนข้างเธอ เธอจุมพิศเขาเบาๆ และกระซิบค่อยๆว่า
“ไม่ต้องกังวลอีกแล้วนะ ฉันรักคุณค่ะไบรอัน แอนเดอร์สัน ที่รัก”
โบราณว่า “ให้สิ่งใด ได้สิ่งนั้น"
เรื่องดีดีที่แชร์กันต่อๆมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น